ผ้าปูที่นอน เปรียบเสมือนคู่นอนที่ดี เพราะเป็นชุดเครื่องนอนที่สัมผัสกับผิวกายของทุกคนในครอบครัวโดยตรง ช่วยให้การนอนหลับสบายตลอดทั้งคืน จึงจำเป็นต้องเลือกผ้าปูที่นอนที่ได้คุณภาพโดยเฉพาะเรื่อง จำนวนเส้นด้ายต่อตารางนิ้ว หรือ Thread count ส่วนใหญ่จะมีจำนวนเส้นด้ายอยู่ที่ประมาณ 180-300 เส้นซึ่งทำให้ผ้าปูที่นอนนุ่มน่านอน รวมถึงการเลือกเนื้อผ้าของผ้าปูที่นอน ที่มีให้เลือกหลากหลายชนิด อาทิ ผ้าฝ้าย (Cotton) ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายระหว่างการนอน เพราะระบายอากาศได้ดี ผ้าฝ้ายผสมใยสังเคราะห์ (Poly-Cotton) ระบายอากาศได้ดีไม่เท่าผ้าฝ้ายแท้ และราคาไม่สูงมาก ผ้าสักหลาด (Flannel) เป็นผ้าที่ทำจากขนสัตว์ ให้ความอุ่นเหมาะกับการใช้ในช่วงฤดูหนาว ผ้าไหม (Silk) มีความทนทาน แต่ดูแลรักษาค่อนข้างยาก และมีราคาสูงกว่าผ้าชนิดอื่นๆ ซาติน (Satin) ให้สัมผัสที่นุ่ม และหรูหรา
การเลือกผ้าปูที่นอนแต่ละประเภทขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละบ้านนะครับ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ควรเลือกผ้าปูที่นอนที่ช่วยให้การนอนหลับสบาย ไม่กระสับกระส่ายระหว่างการนอน หรือเลือกผ้าปูที่นอนที่มีคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ เช่น ผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่น ผ้าปูที่นอนช่วยรักษาความชุ่มชื้น และลดอุณหภูมิร่างกาย ก็จะช่วยให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้นครับ ![]() | ![]() | ![]() |
|---|
ผ้าคลุมเตียง หรือ Bedspread เป็นเครื่องนอนที่ใช้ปูคลุมเตียงเป็นชั้นสุดท้าย หลายๆ บ้านมักเข้าใจผิดว่า ผ้าห่ม คือผ้าคลุมเตียงเพราะใช้ผ้าห่มคลุมเตียงนอนเป็นประจำหลังจากการเก็บที่นอนในทุกๆ เช้า แต่จริงๆ แล้วผ้าคลุมเตียงเป็นผ้าที่ใช้คลุมทับผ้าห่มนวม ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มสีสัน ความโดดเด่น และเปลี่ยนบรรยากาศการตกแต่งให้ห้องนอนกลายเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น แต่ ประโยชน์ของผ้าคลุมเตียง ยังช่วยป้องกันสิ่งสกปรก และไรฝุ่นภายในห้องนอนไม่ให้ร่วงหล่นไปบนที่นอน จึงช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ทำให้คุณแม่บ้าน และคุณพ่อบ้านมั่นใจเรื่องความสะอาดภายในห้องนอนได้เพิ่มขึ้นอีกด้วยครับ
ผ้าคลุมเตียงส่วนใหญ่จะเป็นผ้าชั้นเดียวไม่หนามาก หรือเย็บแบบ Quilt คือการเย็บให้ผ้าสามชั้นติดกัน ด้วยการเนาถี่ๆ คือ ผ้าชิ้นบน เป็นผ้าที่ตกแต่งลวดลาย ผ้าชิ้นกลาง เป็นใย ทั้งโพลีเอสเตอร์ หรือใยอัดเรียบ และผ้าชิ้นล่าง คือ ผ้าซับใน ซึ่งปัจจุบันหลายๆ แบรนด์มีการเลือกใช้เนื้อผ้าคลุมเตียงกันฝุ่น ที่ปลอดจากสารที่ก่อเกิดอันตราย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้งาน โดยมีให้เลือกหลากหลายขนาดตามขนาดของที่นอน เช่น 3.5 ฟุต 5 ฟุต และ 6 ฟุต ครับ วิธีการดูแลรักษาก็ไม่ยุ่งยาก เพียงนำ ผ้าคลุมเตียงกันฝุ่น มาสะบัดขี้ฝุ่น และตากแดดเป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อสุขอนามัยที่ดี เพราะหากบ้านไหนมีฝุ่นเยอะผ้าคลุมเตียงอาจเป็นแหล่งสะสมของขี้ฝุ่น ส่งผลต่อคนในครอบครัวที่เป็นโรคภูมิแพ้ได้ครับ หรือหากมีคราบสกปรกก็สามารถนำไปซักด้วยน้ำเย็นผ่านเครื่องซักผ้า ด้วยวิธีการพับทบไปทบมา ไม่ควรขยุ้มผ้าลงในเครื่องซักผ้านะครับ เพราะจะเกิดฟองอากาศได้
ผ้าปูที่นอน ใช้ปูคลุมที่นอนที่สัมผัสกับผิวกายโดยตรง ส่วนผ้าคลุมเตียงเป็นผ้าที่ใช้คลุมเตียงทั้งหมดตั้งแต่ ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม หมอนหนุน หมอนข้าง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก และไรฝุ่น
![]() | ![]() | ![]() |
|---|
ผ้าคลุมเตียงมีไว้ทำไม หลายๆ บ้านคงทราบประโยชน์ของผ้าคลุมเตียง และความแตกต่างระหว่างผ้าปูที่นอน และ ผ้าคลุมเตียง ตามที่ HomeGuru กล่าวไว้ข้างต้นกันแล้วนะครับ แต่ไม่เพียงแค่ผ้าคลุมเตียง และผ้าปูที่นอนเท่านั้นที่จะช่วยให้การพักผ่อนในทุกๆ วันสบายยิ่งขึ้น ยังมีชุดเครื่องนอนอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการนอน เช่น หมอนเพื่อสุขภาพ แผ่นรองนอน หรือ Topper ที่สามารถปูทันบนที่นอน เพื่อป้องกันเหงื่อ และช่วยให้การนอนนุ่มสบายตลอดทั้งคืนเช่นกันครับกรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก
เพื่อเพิ่มรายการโปรดของคุณ